เราเอง

น้ำฝน

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

เที่ยวเมืองร้อยเอ็ด


ร้อยเอ็ด เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของภาคอีสานมานานกว่า 200 ปี อดีตเคยเป็นเมืองใหญ่ที่รุ่งเรืองมาก ชื่อว่า สาเกตนคร มีประตูเข้าเมือง 11 ประตู เมืองขึ้น 11 เมือง แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนาในด้านต่างๆ มากมาย เมืองร้อยเอ็ดเป็นเมืองแห่งบึงพลาญชัย และมีส่วนหนึ่งของทุ่งกุลาร้องไห้ที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีเนื้อที่กว้างใหญ่ถึงสองล้านไร่เศษ ขณะนี้กำลังได้รับการพัฒนาเพื่อให้เป็นแผ่นดินแห่งความอุดมสมบูรณ์จนแทบจะหาร่องรอยแห่งอดีตไม่พบ
ประวัติศาสตร์ของเมืองร้อยเอ็ดเริ่มปรากฏขึ้นในราวสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยมีเจ้าลาวจากนครจัมปาศักดิ์ได้เดินทางมาตั้งบ้านเรือนในบริเวณที่เป็นอำเภอสุวรรณภูมิในปัจจุบัน ต่อมาได้มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 แห่งกรุงศรีอยุธยา ในสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้ย้ายเมืองใหม่มาตั้งที่บริเวณเมืองร้อยเอ็ดปัจจุบัน ส่วนเมืองสุวรรณภูมิเดิมก็ยังคงมีอยู่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์คิดกบฎต่อกรุงเทพฯ ได้ยกทัพเข้ามาตีหัวเมืองรายทางจนถึงนครราชสีมา แต่ก็ถูกทัพไทยตีแตกพ่ายไปในที่สุด
นอกจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังพบหลักฐานทางโบราณคดีแสดงการอยู่อาศัยของคนมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์เช่นกันและรวมทั้งเคยเป็นดินแดนที่อยู่ในเขตอิทธิพลของอาณาจักรขอมโบราณ เพราะพบโบราณสถานแบบขอมหลายแห่ง เช่น กู่พระโกนา อำเภอสุวรรณภูมิ กู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย ปรางค์กู่ อำเภอธวัชบุรี เป็นต้น
ร้อยเอ็ด มีเนื้อที่ 8,299 ตารางกิโลเมตร และแบ่งการปกครองออกเป็น 20 อำเภอ คือ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด อำเภอเกษตรวิสัย อำเภอปทุมรัตต์ อำเภอจตุรพักตรพิมาน อำเภอธวัชบุรี อำเภอพนมไพร อำเภอโพนทอง อำเภอเสลภูมิ อำเภอสุวรรณภูมิ อำเภออาจสามารถ อำเภอหนองพอก อำเภอเมืองสรวง อำเภอโพธิ์ชัย อำเภอโพนทราย อำเภอเมยวดี อำเภอศรีสมเด็จ อำเภอจังหาร อำเภอเชียงขวัญ อำเภอหนองฮี และอำเภอทุ่งเขาหลวง

คำขวัญจังหวัดร้อยเอ็ด
สิบเอ็ดประตูเมืองงาม เรืองนามพระสูงใหญ่ ผ้าไหมสาเกตุ
บุญผะเหวดประเพณี
มหาเจดีย์ชัยมงคล งามหน้ายลบึงพลาญชัย
เขตกว้างไกลทุ่งกุลา โลกลือชาข้าวหอม



บึงพลาญชัย







วนอุทยานผาน้ำย้อย














พิพิธภัณฑ์แห่งชาติร้อยเอ็ด










วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สวนผึ้ง...ที่รัก


สวนผึ้ง.... อำเภอเล็กๆ ชายแดนป่าตะวันตก
สวนผึ้ง อำเภอกลางป่าเขาดงดอย น่าจะมีอะไรดีๆ....เป็นคำที่คาใจผมในฐานะที่เป็นนักสำรวจคนหนึ่งมาตลอด จนกระทั้งเมื่อกลางปี 49 นี้ได้มีโอกาสเหมาะๆไปสำรวจมา ตามสูตรไทยทัวร์ครับ ผมจะแยกเป็นหมวดๆ ดังนี้ ที่พัก การเดินทางและแผนที่ สถานที่ท่องเที่ยว(เฉพาะที่น่าสนใจ) ฯลฯ 2-3ปีนี้เริ่มมีรีสอร์ทสวยๆ ผุดขึ้นหลายที่ ขณะที่ข่าวก็อดอาร์มี่เมื่อ3-4 ปีก่อนค่อยๆ ลีมหายไป สวนผึ้งปัจจุบันไม่อันตรายเหมือนเมื่อก่อนที่มีคดีโจรกระเหรี่ยงออกมาปล้นสดม นายตำรวจที่อำเภอนี้ว่างงานครับ คือไม่ค่อยมีคดีอะไรให้ทำ เรียกได้ว่าปลอดภัยดีสำหรับนักท่องเที่ยว จุดเด่นหลักๆของสวนผึ้งมีแต่ ธรรมชาติล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็น ป่าเขียวชอุ่ม น้ำตก ลำธารสำหรับล่องแก่ง หรือพายเรือ ขับรถ 4 wheel ขึ้นยอดเขากระโจม อาบน้ำแร่ ฯลฯ การเดินทางก็ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ควรออกจากกรุงเทพฯ ก่อน 8 โมงเข้ากำลังดี ประมาณ 1 1/2 ชั่วโมงจะเข้าเขต จ.ราชบุรี หากหลงเข้าไปตัวเมือง แวะนมัสการหลวงพ่อแก่นจันทน์ หน่อยก็จะดี และตรงต่อเข้า อ.จอมบึง ที่นี่ต้องแวะ ถ้ำจอมบึงและถ้ำเขาบิน อยู่ระหว่างทางผ่าน และจากที่นี่ไปจะเข้าเขต สวนผึ้ง เป็นเป็นทางคดเคี้ยวหน่อยแต่ไม่ลาดชันหรืออันตรายแต่อย่างไร
เมื่อย่างเข้าสู่เขตสวนผึ้ง ผมก็เริ่มหลงใหลสายหมอกและขุนเขาที่เขียวขจีที่นี่ซะแล้ว รีสอร์ทแต่ละแห่งอยู่กลางหุบเขาหรือไม่ก็ข้างลำธารเป็นส่วนใหญ่ พอจะแนะนำที่สวยๆ สัก 3 - 4 แห่ง

จอมบึงของเรา



จอมบึงเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดราชบุรี เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง อันเป็นมหาวิทยาลัยที่ฉันเรียนอยู่
จอมบึงมีทิวทัศน์ที่สวยงามมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อระดับประเทศ เช่น ถ้ำจอมพล ถ้ำเขาบิน เป็นต้น อากาศบริสุทธิ์เย็นสบายตลอดทั้งปี